ผมทิ้งช่วงไปนานพอสมควร ทั้งนี้ช่วงปลายปี 2559 ประเทศไทยเรามีอะไรหลายอย่างที่เปลี่ยนแปลง เราสูญเสียพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักของปวงชนชาวไทย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เราชาวไทยทุกคนต่างโศกเศร้าอย่างยิ่ง ผมขอเขียนต่อเรื่องธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ ต่อจากตอนก่อนๆ โดยเราเน้นเรื่องการปรับตัวของร้านแบตเตอรี่รถยนต์ ที่มีแนวโน้มทางสังคมเมืองมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว จนมีรูปแบบที่ให้บริการที่เป็นมาตรฐาน เช่นศูนย์บริการของเอเยนต์หรือดีลเลอร์รถยนต์ ศูนย์บริการซ่อมและดูแลรถยนต์ ที่ต่างมีสาขาและมาตรฐานการบริการที่ดี เป็นที่ยอมรับสำหรับคนใช้รถยนต์ จึงทำให้ศูนย์บริการต่างๆก็เป็นที่ผู้ใช้รถนิยมไปใช้บริการ ทั้งๆที่ราคาน่าจะสูงกว่าร้านแบตเตอรี่รถทั่วไป 25-40% แต่ด้วยคำว่า มาตรฐานทางด้านรูปแบบ มีสถานที่กว้าง รองรับการบริการได้สะดวก ทำให้ผู้ใช้รถไว้วางใจในการบริการ อย่างไรก็ตามตลาดร้านค้าแบตเตอรี่รถยนต์ ร้านไดนาโม ร้านขายอะไหล่รถยนต์ ยังเป็นตลาดใหญ่ของบริษัทผู้ผลิต ทั้งนี้จำนวนร้านค้าที่มีจำนวนมาก กระจายไปแหล่งชุมชนต่างๆ จึงทำให้ยอดรวมหรือสัดส่วนทางการตลาดยังสูงอยู่ แต่ถ้าเราดูปริมาณยอดขายต่อร้านแล้วก็จะมียอดขายไม่สูงมากหนัก เพราะสามารถตอบสนองได้เฉพาะพื้นที่ ตามทำเลที่ตั้งอยู่ และอย่างที่พูดไว้หลายๆร้านเริ่มมีผลกระทบจากทำเลที่ไม่สามารถจอดรถได้ ไม่สะดวกต่อการบริการลูกค้า ทำให้ยอดขายน้อยจนแทบจะเลี้ยงตัวเองไม่ได้ ดังนั้นร้านค้าเหล่านี้จำเป็นต้องมีบริการจัดส่ง เปลี่ยนนอกสถานที่ จึงจะสามารถอยู่รอด หรือเพิ่มยอดขายได้ แต่ก็ต้องเพิ่มพนักงานในการจัดส่งเพิ่มขึ้น หาวิธีที่จะให้ลูกค้ารับรู้ว่ามีบริการจัดส่ง และมีป้ายบอกเลขโทรศัพท์ที่ติดต่อได้ ซึ่งก็จะมีข้อจำกัดที่ลูกค้าต้องผ่านร้านแล้วเห็นป้ายดังกล่าว โอกาสที่จะเพิ่มยอดขายได้ดีดังใจคิดไว้คงจะลำบาก เพราะข้อจำกัดทางด้านสื่อ จึงทำให้หลายร้านไม่ประสบความสำเร็จในการเพิ่มยอดขายได้ ทางออกของร้านค้าที่ต้องการยอดขายเพิ่มจึงอาจสรุปได้ เปลี่ยนรูปแบบเป็นธุรกิจขายส่งและปลีก โดยขายส่งให้ร้านค้าด้วยกัน หรือทำตลาดในการขายให้ร้านค้าย่อยๆ อู่รถยนต์ โดยจำเป็นต้องสั่งสินค้าจำนวนมากเพื่อได้ส่วนลด…
Continue reading →