ในตอนที่แล้วได้พูดถึงผลกระทบของธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ ที่ยังมีรูปแบบดั้งเดิม ที่ร้านค้าปลีกอยู่ตามอาคารพาณิชย์ แล้วรอลูกค้ามาใช้บริการ เพราะความไม่สะดวกของระบบจราจรที่เดิมจอดข้างทางหน้าร้านแล้วให้บริการได้ เป็นการห้ามจอดตลอดวัน ลูกค้าจึงจำเป็นต้องหาร้านที่สะดวกกว่า ทำให้ลูกค้าน้อยลง โดยเฉพาะร้านค้าใน กทม. ร้านค้าอาจจะหาทำเลใหม่ที่อยู่นอกเมืองมากขึ้น หรือไม่ก็ต้องหาทำเลที่สามารถจอดรถได้
การปรับตัวของธุรกิจทุกธุรกิจเริ่มเห็นชัดขึ้น โดยเน้นหลักการในการสร้างความสะดวก ความง่าย ความรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายลง เราจะเห็นว่าเราใช้บริการธนาคารได้สะดวกโดยไม่ต้องไปธนาคาร เราดูหนังได้โดยไม่ต้องไปโรงหนัง เราฟังเพลงได้โดยไม่ต้องไปร้านเพลง และเราซื้อของต่างๆได้โดยอยู่ที่บ้าน
รูปแบบธุรกิจแบบดั้งเดิมจึงเป็นธุรกิจที่มีตลาดที่แคบลง เล็กลง เป็นธุรกิจที่มีความสามารถตอบสนองลูกค้าได้เฉพาะกลุ่มพื้นที่ สังคม ชุมชนในบริเวณเฉพาะด้วยข้อจำกัดที่เปลี่ยนแปลงไป ยอดขายและผลตอบแทนจะน้อยลง ดังนั้นจำเป็นต้องเปลี่ยนรูปแบบ
การแข่งขันในธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ก็มีแนวโน้มที่สูงขึ้น เพราะคู่แข่งที่เป็นรูปแบบใหม่คือ ศูนย์บริการ ซ่อมบำรุงรถยนต์ ที่มีจำนวนมากขึ้น มีรูปแบบที่ชัดเจน มีเงินทุนมาก สามารถขยายธุรกิจได้รวดเร็ว เพราะมีรูปแบบชัดเจน มีมาตรฐานและเป็นระบบ
สิ่งสำคัญคือ รูปแบบของศูนย์บริการรถยนต์ สร้างมาตรฐาน ความสะดวกที่มีหลายสาขา acheter du cialis en ligne พื้นที่กว้างรองรับลูกค้าได้ง่าย ลูกค้าก็จะใช้บริการมากขึ้น แต่จุดเสียก็คือ ราคาค่อนข้างสูง เพราะค่าใช้จ่ายต่างๆในการดำเนินการที่ค่อนข้างสูง
การแข่งขันอีกรูปแบบหนึ่งคือ ศูนย์บริการของรถแต่ละยี่ห้อ เช่น ศูนย์โตโยต้า ศูนย์บริการนิสสัน เป็นต้น ศูนย์ฯ เหล่านี้ก็มีการขยายตัวมากขึ้นทั้งนี้ และเน้นการสร้างรายได้จากการบริการรถยนต์ใหม่ๆ และสร้างฐานสมาชิกเพิ่มขึ้น
รูปแบบธุรกิจแบบศูนย์บริการต่างๆ เป็นรูปแบบการบริการที่มีความทันสมัยในตัวของมันเอง มีการพัฒนาสร้างความพึงพอใจอย่างต่อเนื่อง และสร้างกำไรจากค่าบริการและราคาสินค้า
ที่จริงแล้ว ธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์เป็นธุรกิจการให้บริการควบคู่การขายสินค้า ไม่มีลูกค้าที่ซื้อไปเปลี่ยนเอง ยกเว้นรถยนต์ประเภทขนส่ง ที่มีหน่วยซ่อมบำรุงของตนเอง
ดังนั้นคำว่าบริการน่าจะมีน้ำหนักมากว่าตัวสินค้า เพราะสินค้าแต่ละยี่ห้อ แต่ละแห่งก็น่าจะเหมือนกันเพราะมาจากโรงงานเดียวกัน แต่ในเรื่องของการบริการน่าจะมีความแตกต่างกันไป และเชื่อว่าลูกค้าก็ต้องการการบริการที่มีคุณภาพ
การปรับตัวของธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องปรับตัว เพื่อสร้างคุณภาพของการบริการ เพื่อให้ตัวเองมีความสามารถในการแข่งขัน โดยสร้างรูปแบบของการบริการให้ได้ และการบริการดังกล่าวต้องเป็นคุณค่าของการให้บริการที่ลูกค้ามีความต้องการ
เราสามารถที่จะหาคุณค่าการบริการนี้ได้อย่างไร? โดยเฉพาะธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์ ถ้าเราหาคุณค่าเหล่านี้ได้ก็สามารถนำมาสร้างเป็นรูปแบบธุรกิจที่ใช้ในการแข่งขันได้ เหมือนพวกศูนย์บริการรถยนต์ต่างๆที่เขาพัฒนาคุณค่าที่ลูกค้าปรารถนาขึ้นมา
คุณค่าบริการที่ลูกค้าต้องการในธุรกิจแบตเตอรี่รถยนต์นั้น ลูกค้ามีความคาดหวังว่าอย่างไร เราพอจะลองกล่าวได้ คือ ความรวดเร็ว ความง่าย ความเที่ยงตรง มีมาตรฐานการบริการ ราคายุติธรรม รถยนต์ปลอดภัย และความไว้วางใจได้
นี่คือความต้องการของลูกค้า ที่อาจจะเป็นพื้นฐาน แต่ถ้าเราสามารถหาคุณค่าได้มากกว่านี้ก็จะได้เปรียบทางด้านแข่งขันเพิ่มขึ้น ข้อสำคัญเราจะสร้างสิ่งเหล่านี้ให้ออกมาเป็นรูปธรรม ที่เอามาปฎิบัติต่อลูกค้าได้อย่างไร… แล้วจะเป็นรูปแบบธุรกิจที่แตกต่างไปจากเดิมหรือไม่…เป็นที่ยอมรับได้หรือไม่
(โปรดติดตามตอนที่ 3)
